แม่ค้าทุเรียนจันทบุรีร้องกองปราบฯ ถูกหลอกขายทุเรียน 10 ตัน สูญเงิน 2 ล้านบาท วันที่ 12 กันยายน 2568 เวลา 11.30 น. นางสาวนันท์ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี แม่ค้าทุเรียนจากจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ กองบังคับการปราบปราม (กก.2 บก.ป.) เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายหน้าหลอกลวงซื้อทุเรียนแกะพูแช่แข็งจำนวนกว่า 10 ตัน ทำให้เธอสูญเงินไปกว่า 2 ล้านบาท ผู้เสียหายเล่าว่า เธอมีอาชีพทำธุรกิจค้าขายทุเรียนในครอบครัว โดยจะนำทุเรียนคุณภาพดีมาแกะเนื้อขายปลีก ต่อมามีนายหน้ารายหนึ่งติดต่อขอซื้อทุเรียนแกะพูแบบแช่แข็งจำนวน 10 ตัน โดยอ้างว่าจะนำไปส่งออกต่างประเทศ และเสนอราคาเหมาที่ 2 ล้านบาท ด้วยความเชื่อใจ เธอจึงรวบรวมทุเรียนจากสวนและนำไปส่งมอบให้ที่ห้องเย็นแห่งหนึ่งใน ต.พลับพลา อ.เมืองจันทบุรี เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เมื่อไปถึง นายหน้าแจ้งว่าจะต้องนำทุเรียนไปแช่แข็งและคัดแยกเกรดเป็นเวลา 2 วัน ก่อนจะชำระเงินให้ ผู้เสียหายจึงยอมทิ้งทุเรียนไว้ แต่เมื่อถึงกำหนดในวันที่ 10 สิงหาคม 2568 เธอกลับถูกบ่ายเบี่ยง เมื่อพยายามติดต่ออีกครั้งในวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ผู้เสียหายจึงสอบถามไปยังผู้จัดการห้องเย็น แต่กลับได้รับคำตอบให้ไปทวงเงินกับนายหน้าเอง ทำให้สงสัยว่าตนเองถูกหลอก และเกรงว่าห้องเย็นอาจมีส่วนรู้เห็นกับการฉ้อโกงครั้งนี้ เนื่องจากเป็นห้องเย็นขนาดใหญ่ และกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจาก จ่าคิงส์ แตงทิม เพื่อเข้าแจ้งความในข้อหาฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ อ.มานพ สีเหลือง กรณีนี้เข้าข่ายความผิดฐาน ฉ้อโกง และ ยักยอกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ 352 หากพบว่าห้องเย็นมีส่วนรู้เห็นด้วย อาจเข้าข่ายเป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุน ซึ่งผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องคดีแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหาย 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยควบคู่ไปกับคดีอาญาได้ด้วย เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับสินค้าเน่าเสียง่าย ควรมีการตรวจสอบเครดิตของคู่ค้าอย่างละเอียด และกำหนดเงื่อนไขการชำระเงินให้ชัดเจนก่อนส่งมอบสินค้า เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในลักษณะนี้ หลังจากเปิดเผยเรื่องราวต่อสื่อมวลชนแล้วจ่าคิงส์ ได้พาผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามเพื่อขอรับคำแนะนำทางกฎหมายต่อไป
