คืบหน้าคดีฉ้อโกงแม่ค้าทุเรียนแช่แข็ง 2 ล้านบาท ผู้เสียหายพบประเด็นใหม่! บริษัทฯ เอกชนอาจพานักโทษจากเรือนจำมาทำงานโดยผิดกฎหมาย
กรณีที่ น.ส.นันทน์ (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี แม่ค้าผลไม้ชาวจังหวัดจันทบุรี ถูกนายหน้าหลอกซื้อทุเรียนแช่แข็งมูลค่า 2 ล้านบาท แต่ไม่ยอมจ่ายเงิน ล่าสุดผู้เสียหายได้เปิดเผยประเด็นใหม่ที่น่าสนใจ โดยพบว่าบริษัทที่รับมอบสินค้าอาจมีการจ้างนักโทษจากเรือนจำมาเป็นพนักงานขนถ่ายสินค้า ซึ่งอาจเข้าข่ายการกระทำที่ผิดระเบียบของกรมราชทัณฑ์
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 เมื่อ น.ส.นันทน์ ตกลงขายทุเรียนแกะพูแช่แข็ง 10 ตัน มูลค่า 2 ล้านบาท ให้กับ นายประเสริฐ (สงวนนามสกุล) นายหน้าค้าทุเรียนแช่แข็งเพื่อส่งออก โดยมีการนัดส่งมอบสินค้าที่ บริษัท เอมไทยอินเตอร์ เทรด (2001) จำกัด ในวันที่ 8 สิงหาคม
หลังส่งมอบสินค้า นายประเสริฐแจ้งว่าจะต้องใช้เวลา 2 วันในการคัดแยกเกรดสินค้าก่อน จึงจะชำระเงิน แต่เมื่อถึงกำหนดในวันที่ 10 สิงหาคม ผู้เสียหายได้พยายามติดต่อทวงถามเงินค่าทุเรียน แต่นายประเสริฐก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 14 สิงหาคม ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ทำให้ น.ส.นันทน์ เริ่มเชื่อว่าตนเองถูกหลอกลวง
วันที่ 22 สิงหาคม น.ส.นันทน์ ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.มารุต รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะนั้นมองว่าเป็นคดีผิดสัญญาทางแพ่ง ทำให้คดีไม่มีความคืบหน้า
ด้วยความเดือดร้อนอย่างหนักจากเงินทุนที่ใช้ไป น.ส.นันทน์ จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจาก “จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่”และได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม (กก.2 บก.ป.) เพื่อขอความเป็นธรรม
ตำรวจกองปราบปรามพิจารณาพฤติกรรมของนายประเสริฐแล้ว เห็นว่ามีเจตนาไม่จ่ายเงินค่าสินค้า ซึ่งเข้าข่ายความผิดฐาน ฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา จึงได้ประสานไปยังพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่ สภ.เมืองจันทบุรี และนัดผู้เสียหายเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในวันนี้ (13 กันยายน 2568) เวลา 13.00 น.
นอกเหนือจากคดีฉ้อโกงแล้ว น.ส.นันทน์ ยังได้แจ้งเบาะแสเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนว่า ที่บริษัทที่รับมอบทุเรียน มีการใช้นักโทษจากเรือนจำจังหวัดจันทบุรีมาเป็นพนักงานขนถ่ายสินค้า ซึ่งผู้เสียหายไม่ทราบว่าการนำนักโทษออกมาทำงานนั้นถูกต้องตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ จึงได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบในประเด็นนี้เพิ่มเติมด้วย
การตรวจสอบในประเด็นการจ้างนักโทษถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องติดตาม เพราะหากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย จะส่งผลกระทบต่อทั้งตัวบริษัทฯ และอาจรวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องด้วย




