มุกดาหาร ชาวบ้านโต้เถียงกับข้าราชการกลางที่ประชุมคณะกรรมาธิการพัฒนาเมืองฯ กรณีอนุญาตเหมืองหิน มุกดาหาร/เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น. คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยมี นายวิริยะ ทองผา รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ รองประธานกรรมาธิการ คนที่สี่ นายณกร ชารีพันธ์ สส.เขต 2 มุกดาหาร พรรคประชาชนและนางสาวธัญลักษณ์ พงศกรวิวัฒน์ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการ ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร โดยมีนายรณรงค์ เทพรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร หัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร การศึกษาดูงาน การมีส่วนร่วมของชุมชนในกระบวนการอนุญาตและดำเนินการเหมืองหินในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการเสนอแนะแนวทางคุ้มครองสิทธิของชุมชนอย่างเป็นธรรม รวมถึงการบรรยายสรุปในหัวข้อการมีส่วนร่วมของชุมชนในกระบวนการอนุญาตและดำเนินการเหมืองหินในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร และหารือกรณีการอนุญาตคำขอประทานบัตร ชนิดแร่หินอุตสาหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ในพื้นที่บ้านหนองหอย หมู่ 11 ต.บางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นกรณีร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ขอให้ตรวจสอบกรณีการขออนุญาตทำเหมืองหินชนิดทราย เพื่ออุตสาหกรรมการก่อสร้าง ในเนื้อที่ 58 ไร่ 80 ตารางวา ปัจจุบันกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ได้พิจารณาเห็นชอบออกประทานบัตรแล้ว อยู่ระหว่างการขออนุญาตใช้วัตถุระเบิด ซึ่งในข้อเท็จจริงเบื้องต้นบริษัทยื่นขอใช้วัตถุระเบิดในการทำเหมืองบางส่วนมีลักษณะเป็นที่ดินทำกินของประชาชน พื้นที่ป่าชุมชน และใกล้แหล่งทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แหล่งต้นน้ำลำห้วยหินกอง แนวเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดมุกดาหารที่เชื่อมต่อการค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงส่งผลกระทบต่อทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงามที่มีลักษณะเหมือนเต่า เป็นที่มาของชื่อภูเต่าอันเป็นแหล่งอาหาร ทำเลเลี้ยงสัตย์ การดำเนินกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงของทรัพยากรในระยะยาว รวมทั้งกระทบต่อวิถีชีวิต ความมั่นคงด้านอาหาร และสวัสดิภาพของประชาชนในพื้นที่โดยตรง เพื่อให้เกิดการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ จึงได้ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหารเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นเกี่ยวกับกระบวนการรับฟังความเห็นของประชาชน เพื่อคุ้มครองสิทธิของชุมชนและรักษาทรัพยากรธรรมชาติของท้องถิ่น รวมถึงหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม นายฉันทะ ทวีโคตร ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ภูเต่า เปิดเผยว่า ตนเองพร้อมด้วยชาวบ้านที่มีที่ดินในรัศมีติดกับบริเวณที่ได้รับใบประทานบัตรระเบิดหิน ตนเองที่มีที่ดินติดกับบ่อระเบิดและชาวบ้านก็มีความกังวลหลายอย่างในการระเบิดในครั้งนี้ และบริเวณใกล้เคียงบ่อระเบิดก็มีวัด โรงเรียน โบราณสถาน และถนนที่ใช้สัญจรไปมาส่งสินค้าไปประเทศลาว และพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นสีเขียว ถ้าหากมีการระเบิดหินจริง ชาวบ้านมีความกังวลและได้รับผลกระทบโดยตรงจากฝุ่นละออง เสียง และอื่น ๆ ที่ตามมา ตนเองพร้อมด้วยชาวบ้านได้คัดค้านที่อุตสาหกรรมจังหวัดมุกดาหาร ศูนย์ดำรงธรรมมุกดาหาร และที่อื่น ๆ หลายที่หลายครั้ง แต่ทางหน่วยงานของรัฐเพิกเฉย และไม่ให้ความสำคัญกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนแต่อย่างไร จึงได้หันมาขอพึ่งคณะกรรมาธิการพัฒนาเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนในครั้งนี้ นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ สี่ กล่าวว่า ให้หน่วยงานอุตสาหกรรมจังหวัดส่งเอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการอนุญาตคำขอประทานบัตรชนิดแร่หินอุตสาหกรรมชนิดแร่ทรายเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ส่งให้กับคณะกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบเอกสารดังกล่าว และหนังสือที่ชาวบ้านคัดค้านตลอดจนหนังสื่อจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้พิจารณาในขั้นตอนต่อไป นายชายสิทธิ์ สุวรรณโชติ นายอำเภอเมืองมุกดาหาร ได้บอกกับชาวบ้านที่ได้มาคัดค้านในครั้งนี้ว่า การทำขั้นตอนของการออกใบประทานบัตรเหมืองแร่ ได้ทำการถูกต้องทุกขั้นตอนและได้ส่งเอกสารทุกอย่างไปที่จังหวัดมุกดาหารแล้ว และทางจังหวัดได้ส่งเอกสารทุกอย่างไปที่กระทรวงมหาดไทยเรียบร้อยแล้ว และขอให้ชาวบ้านได้หยุดร้องเรียนและหยุดคัดค้านเหมืองดังกล่าวได้แล้ว จากนั้นชาวบ้านก็ได้ตอบโต้ว่าชาวบ้านที่เขาอยู่ติดกับเหมืองแร่เขาได้ผลกระทบจากการระเบิดหินโดยตรง ได้ตอบโต้กันไปมา ทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร จึงได้ขอความร่วมมือทั้งสองยุติ จากนั้นได้ปิดประชุม สำหรับข้อมูลทั่วไป ประทานบัตรที่ 26828/16562 ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เป็นการทำเหมืองแร่ประเภทที่ 2 ชนิดแร่หินอุตสาหกรรมชนิดแร่ทรายเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง นับตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 19 สิงหาคม 2586 มีอายุ 19 ปี ในพื้นที่บ้านหนองหอย หมู่ที่ 11 ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง มีเนื้อที่รวม 58 ไร่ 8 ตารางวา เป็นการทำเหมืองแร่ลักษณะขั้นบันได มีการใช้วัตถุระเบิดในการทำเหมือง ทำการระเบิดวันละ 1 ครั้ง ในช่วงเวลา 16.00 น. – 17.00 น. ซึ่งขั้นบันไดแต่ละขั้นมีความสูงประมาณ 10 เมตร และมีความกว้างไม่น้อยกว่า 10 เมตร เพื่อรักษาให้บ่อเหมืองมีความลาดเอียงไม่เกิน 15 องศา เป็นการป้องกันไม่ให้หน้าเหมืองพังเสียหายช่วยให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งจะเห็นได้ว่าผู้ที่ได้ทำการคัดค้านเป็นผู้ที่อยู่อาศัยอยู่ติดกับบริเวณเหมืองแร่ดังกล่าว ส่วนผู้ที่ให้ผ่านการประชาคมเป็นราษฎรในหมู่บ้านที่อยู่ห่างจากบริเวณเหมืองออกไป ไม่มีที่ดินติดกับเหมือง ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร 081-0501177



