ผู้เข้าประกวด Miss Universe Thailand 3 จังหวัดแจ้งความกองปราบฯ ถูกหลอกเงินรางวัลและสิทธิประโยชน์ เสียหายกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 กันยายน 2568 ณ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) อี้-แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พร้อมด้วย นายเก่ง สุเชษฐ์ ผู้ช่วยประธานฯ ได้พาผู้เข้าประกวดและผู้ได้รับรางวัลจากเวที Miss Universe Thailand (MUT) ระดับจังหวัด 3 จังหวัด ได้แก่ แพร่, อุทัยธานี และบุรีรัมย์ รวม 5 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงและหลอกลวง ผู้เสียหายทั้ง 5 คน ประกอบด้วย น.ส.ปลายฟ้า ไขทุมมา ผู้ชนะเลิศ MUT อุทัยธานี, น.ส.ยลรดา รองชนะเลิศอันดับ 1 MUT อุทัยธานี, น.ส.ณัฐนันท์ คันธมาลย์ รองอันดับสอง, น.ส.เอลินญาน์ รองอันดับ 2 MUT แพร่ และ น.ส.ณัฐมน ศิลาอาศน์ รองอันดับ 3 MUT แพร่ โดยผู้เสียหายทั้งหมดระบุว่าถูกกองประกวดระดับจังหวัดฉ้อโกงเงินรางวัลและสิทธิประโยชน์ตามสัญญา มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอีกในแต่ละภาค โดนหลอกเงินรางวัล-สิทธิประโยชน์ แถมถูกข่มขู่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล กลุ่มผู้เข้าประกวดเปิดเผยว่า นอกจากจะไม่ได้รับเงินรางวัลตามที่ตกลงกันไว้แล้ว ยังถูกบิดพลิ้วเรื่องสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การศัลยกรรมความงามที่ประเทศเกาหลี นอกจากนี้ยังมีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างร้ายแรง โดยถูกกลุ่มผู้จัดการประกวดซึ่งเป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศเรียกเข้าห้องดำเพื่ออัดคลิปวิดีโอที่มีลักษณะละเมิดความเป็นส่วนตัว มีการตั้งคำถามชี้นำและบันทึกคลิปที่ไม่เหมาะสม เพื่อแลกกับการยกเลิกข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม หรือเพื่อบังคับให้ทำตามที่ต้องการ ทำให้ผู้เข้าประกวดรู้สึกหวาดกลัว น.ส.ปลายฟ้า ไขทุมมา หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ทางกองประกวดไม่ยอมจ่ายเงินรางวัลตามที่ระบุในสัญญา แถมยังไม่มีการส่งมอบสัญญาคู่ฉบับ โดยอ้างว่าลืม นอกจากนี้ยังมีการเรียกเก็บเงินค่าสปอนเซอร์และค่ามงกุฎจากผู้เข้าประกวดเอง อีกทั้งยังมีการนำบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติเข้ามาแทรกแซงการประกวด โดยอ้างว่าจะผลักดันให้เข้าสู่วงการบันเทิงแต่สุดท้ายก็ไม่มีงานใด ๆ เกิดขึ้นจริง อ้างชื่อ ‘นายตำรวจ’ ข่มขู่ผู้เข้าประกวด นอกจากนี้ ผู้เข้าประกวดยังระบุว่า ตลอดการประกวด ทางผู้จัดการประกวดมีการอ้างถึง ‘นายตำรวจระดับผู้กำกับ’ ที่ทำงานกับบุคคลระดับสูง ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกถูกข่มขู่และไม่ได้รับความเป็นธรรมตลอดกระบวนการจัดการประกวด ด้วยเหตุนี้จึงรวมตัวกันเข้าร้องเรียนต่อชมรมสันติประชาธรรมเพื่อขอความช่วยเหลือ อี้ แทนคุณ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดหลายข้อหา ได้แก่ ความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ความผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 กรณีโฆษณาเกินจริงหรือเป็นเท็จ, ความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 จากพฤติกรรมการข่มขู่เพื่อให้ทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม รวมถึง ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร กรณีไม่ส่งมอบสัญญาคู่ฉบับให้กับผู้เข้าประกวด อี้ แทนคุณ ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกองประกวด Miss Universe Thailand ส่วนกลาง และไม่ได้มีการแจ้งความกองประกวดส่วนกลางแต่อย่างใด แต่เป็นการดำเนินคดีกับกองประกวดระดับจังหวัดที่ฉ้อโกงผู้เข้าประกวด เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความและสอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 5 ราย เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางกองประกวด Miss Universe Thailand (MUT) ได้ประกาศยกเลิกสัญญาการจัดการประกวด Miss Universe แพร่, อุทัยธานี และบุรีรัมย์ 2025 กับบริษัท เอเชีย มีเดียส์ จำกัด ผู้จัดการประกวดใน 3 จังหวัดดังกล่าวแล้ว เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขและมาตรฐานที่กำหนดไว้ได้




