ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบเพิ่มเติม 2 คนสนิททนายตั้ม ปมเงิน 39 ล้านบาท

 
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบเพิ่มเติม 2 คนสนิททนายตั้ม ปมเงิน 39 ล้านบาท
 
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบกป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบกป., พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.ป.,ว่าที่ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ
แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์
รอง ผกก.3 บก.ป. และพ.ต.ท.อภิมันฑ์  บานชื่น รอง ผกก.3 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.กก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร
สว.กก.3 บก.ป., พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ สว.กก.3 บก.ป., พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป.,
พ.ต.ต.พงศธร รัชตวัชรางกูร สว.กก.3 บก.ป., ว่าที่ พ.ต.ต.สุวิจักขณ์ รัตนพันธ์ สว.กก.3 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย ดังนี้
1.นายนุวัฒน์หรือนุ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567  ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทําความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน"
2. นางสาวสารินีหรือแซน อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทําความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน"
 
สถานที่จับกุม บริเวณบ้านใน ซอยรามคำแหง 39 ถนนศรีวรา แขวงพลับพลา เขตวังทองหลางกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 06.00 น.
เข้าตรวจค้น  2 จุด
1.บริเวณบ้าน ถนน ศรีวรา ซอย รามคำเเหง 39 เเขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.
บ้านของนายนุวัฒน์หรือนุฯ ตรวจยึด ดังนี้ 
 1. รถยนต์ ยี่ห้อ PORSCHE สีขาว ทะเบียน ฆน 999 กทม. (สีใหม่เป็นสีฟ้า) พร้อมกุญแจ 1 คัน
 2. กระเป๋าเดินทาง จำนวน 2 ใบ
 3. กล่องโทรศัพท์ยี่ห้อ Iphone จำนวน 3 กล่อง
 4. บัตรกดเงินสด จำนวน 5 ใบ
 5. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Iphone จำนวน 2 เครื่อง
2. บริเวณบ้าน นาคนิวาส 48 แยก 14 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม.
  บ้านตามทะเบียนราษฏร์ นางสาวสารินีฯ ตรวจยึด ดังนี้
  1.รถยนต์ benz กค 999 กทม. พร้อมเล่มทะเบียนและกุญแจรถ
  2.เอกสารใบสั่งซื้อรถยนต์ porche cayenne 1 ชุด
  3.บัตรกดเงินสด 1 ใบ
  4.สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม
  5.ซิมโทรศัพท์ 1 อัน
 
พฤติการณ์
จากกรณีเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม ได้จับกุม นายษิทราหรือทนายตั้มฯ พร้อมภรรยา ซึ่งได้อ้างกับผู้เสียหายว่าสามารถทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ ความเสียหายกว่า 71 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ได้ทำการสืบสวนขยายผล ทราบว่า ผู้เสียหาย  ได้ปรึกษา นายษิทราหรือทนายตั้มฯ เกี่ยวกับการโอน สกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ เพื่อใช้เป็นค่าใช้ค่าใช้จ่าย ในการว่าจ้างนักร้องชาวจีน มาทำการแสดงในประเทศไทย นายษิทราฯ จึงได้แนะนำผู้เสียหายให้รู้จักกับ นายนุวัฒน์หรือนุฯ
ว่ามีกระเป๋าเงินดิจิทัล สามารถโอนสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ได้ ผู้เสียหาย จึงได้ขอให้นายนุวัฒน์ฯ โอนสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ ให้นักร้องนักแสดงชาวจีน และให้ผู้เสียหายโอนเงินชำระหนี้คืนให้กับนายนุวัฒน์ฯ โดยโอนเข้าบัญชีของ
นายษิทราฯ แต่หลังจากที่นายษิทราฯ ได้รับโอนเงินจากผู้เสียหายแล้ว ก็ไม่พบเส้นทางการเงินไปยังบัญชีของนายนุวัฒน์ฯ ต่อมาผู้เสียหายทราบว่า บัญชีนักร้องแสดงชาวจีนดังกล่าวเป็นแก๊งสแกมเมอร์
ต่อมา นายษิทราฯ, นายนุวัฒน์ฯ และนางสาวสารินีหรือแซนฯ (แฟนสาวของนายนุวัฒน์ฯ)  ได้ปกปิดโดยการแจ้งว่า ในการโอนเงินสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ ให้นักร้องชาวจีน ได้ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล นางสาวสารินีหรือแซนฯ เป็นเหตุให้กระเป๋าเงินดิจิทัลของ นางสาวสารินีฯถูกระงับ ได้รับความเสียหายคิดเป็นเงิน จำนวน 39 ล้านบาท
จากนั้น นางสาวสารินีฯ ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกอายัดจากการโอน
บิทคอยน์ให้กับแก๊งสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นความเท็จ แล้วส่งสำเนาบันทึกประจำวันให้ผู้เสียหายดู พร้อมสร้างสถานการณ์ว่าเงิน จำนวน 39 ล้านบาทเป็นเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต ผู้เสียหายสามารถช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง เพราะเป็นความผิดของตน จึงได้ชดใช้เงินจำนวน 39 ล้านบาท ให้กับ นางสาวสารินีฯ
ซึ่งข้อเท็จจริง กระเป๋าเงินสกุลดิจิทัลที่ใช้โอนให้กับแก๊งค์สแกมเมอร์ดังกล่าวคือ กระเป๋าเงินสกุลดิจิทัลของนายนุวัฒน์ฯ อีกทั้งจากการตรวจสอบไม่พบว่ากระเป๋าเงินสกุลดิจิทัลของนายนุวัฒน์ฯ และนางสาวสารินีฯ ถูกระงับการใช้งานตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
หลังจากที่ นางสาวสารินีหรือแซนฯ ได้รับเงินจำนวน 39 ล้านบาท นายนุวัฒน์ฯ และนางสาวสารินีฯทำการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อนำเงินแคชเชียร์เช็คฝากเข้าบัญชีดังกล่าว แล้วทำการถอนเงินสด  โดยมีนายษิทราฯ เป็นผู้มี
ส่วนร่วมในการถอนเงินดังกล่าว มีการแบ่งหน้าที่แบ่งกันทำ เริ่มตั้งแต่การแนะนำให้รู้จักผู้เสียหาย การลงบันทึกประจำวัน ที่นำไปแสดงข้อความอันเป็นเท็จให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ชุดคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นคำร้องขอหมายจับ นายนุวัฒน์หรือนุฯ และนางสาวสารินีหรือแซนฯ (แฟนสาวของนายนุวัฒน์ฯ) และศาลอนุมัติตามคำขอ
จนกระทั่งวันนี้ (12 พ.ย.67) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม
นำกำลังลงพื้นที่ เข้าตรวจค้นจำนวน 2 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อทำการจับกุมผู้ต้องหา จนสามารถจับกุมนายนุวัฒน์หรือนุฯ และนางสาวสารินีหรือแซนฯ ได้ จากนั้นนำตัวทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 3
กองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม  พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ สว.กก.3 บก.ป. โทร.085-6036407



You May Also Like