พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยความคืบหน้าคดีที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. จับกุม 7 เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่กองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ที่ร่วมกันทุจริตปลอมใบเสนอราคาเบิกเงินซ่อมรถบัสว่า ทั้ง 7 คน ที่เข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา
พันตำรวจเอก เพิ่มวุฒิ ประทุมราช ผกก.1 บก.ปปป. เปิดเผยว่า คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน ในจำนวนนี้ มี 5 คน ที่ถูกออกหมายจับ อีก 2 คน เข้ามอบตัว พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีในความผิด มาตรา 157 ฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” และ มาตรา 162 “เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารอันเป็นเท็จ”
โดยผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยพนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยมี 2 คน เป็นอดีตผู้อำนวยการฯ ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว และเจ้าหน้าที่พัสดุ ได้กำหนดหลักทรัพย์ คนละ 4 แสนบาท ในการประกันตัว อีก 3 คน ใช้ตำแหน่งประกันตัวไป และอีก 2 คน ให้ปล่อยตัวโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ เนื่องจากมามอบตัว โดยทั้งหมดจะทำเอกสารชี้แจงภายหลัง
ผู้สื่อข่าวยังถามว่า นอกจากนี้ที่ยังพบว่ามีการทุจริตจัดซื้อน้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันพาวเวอร์, น้ำมันเฟืองท้าย อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ราคาแพงเกินจริงหลายเท่า ได้มีการดำเนินการควบคู่ไปด้วยหรือไม่อย่างไร พันตำรวจเอก เพิ่มวุฒิ บอกว่า ได้มีการตรวจสอบไปทางเจ้าหน้าที่ กทม. ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับช่างซ่อม ตรวจสอบข้อมูลจากกรมโรงงาน กทม. จึงได้รวบรวมข้อมูลดังกล่าวไว้ในสำนวนแล้ว โดยยอมรับว่ามีพฤติการณ์ทุจริตแบบนี้จริง
ส่วนการทุจริตจัดซื้ออุปกรณ์กีฬา ทาง กทม. เป็นผู้ร้องไปยัง ป.ป.ช.เอง ไม่ได้ร้องทุกข์มาที่ บก.ปปป. จึงเป็นอำนาจการชี้มูลของ ป.ป.ช.

