ญาติคาใจ! หนุ่มเอ็นฯ ตกแพ สงสัยถูกบังคับอัพยาเกินขนาด ต้องการให้กองปราบฯ ทำคดี ไม่ไว้ใจท้องที่เพราะมีเรื่องเงิน 6 หมื่น เปลี่ยนผลตรวจเยี่ยว คนที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์
จากกรณีเมื่อวันที่ 9 พ.ค.68 นายมานพ พุ่มพฤกษ์ อายุ47 ปี พ่อของนายมาร์ค หรือ พงศธร พุ่มพฤกษ์ เข้าพบสอบสวน กก.5 บก.ป. แจ้งความกรณีที่นายมาร์ค เสียชีวิตตกน้ำที่“แพลอยลำอีโด่ วิลล่า”ภายในเขื่อนศรีนครินทร์ ต. ท่ากระดาน อ. ศรีสวัสดิ์ จ. กาญจนบุรี เมื่อ28 ก.พ.68 เวลาประมาณ 04.00-04.30 น. โดยช่วงเกิดเหตุมีบุคคลซึ่งประกอบด้วยนายภูวดล หรือมิว จันทมาศ และนายสุรินทร์ หรือริน คันธชาติศิริกุล อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ. ศรีสวัสดิ์ ได้รับแจ้งเหตุการณ์เสียชีวิตและสืบสวนแล้ว
แต่นายมานพ ซึ่งเป็นพ่อเห็นว่าการสืบสวนไม่คืบหน้าจึงมาร้องขอให้กองปราบฯ รวมทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงทั้งนี้หากการสืบสวนพบว่าความตายเกิดจากการกระทำของผู้อื่นที่ทำให้ลูกชายผู้แจ้งถึงแก่ความตายจึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่ง
เบื้องต้น พ.ต.ท.สุรจิต ชะระ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.5 บก.ป. รับแจ้งความก่อนจะรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและให้ฝ่ายสืบสวน กก.5 บก.ป. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดวันนี้(14 พ.ค.68) เวลา 13.00 น. ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังทราบผลการชันสูตร ได้พาครอบครัวนายมาร์ค ซึ่งติดใจในประเด็นสาเหตุการตายว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรมไม่ใช่อุบัติเหตุ พบ รอง ผกก.5 บก.ป.เพื่อให้ทำการสืบสวนและขอให้ทำการจำลองเหตุการณ์การตกแพว่าทำไมถึงแย้งกับผลนิติวิทยาศาสตร์
นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่มีพยานระบุว่าท้องที่เกิดเหตุมีคำรวจรับเงิน 60,000 บาท ทำให้ผลการตวรจสารในร่างกายผู้ต้องสงสัยไม่ปรากฏสารเสพติด อยากปรึกษากันว่าจะไม่ฟังให้ตำรวจสภ. ศรีสวัสดิ์ ได้หรือไม่ ว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะมีประเด็น จึงพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ช่วยคลี่คลายคดีนี้ เป็นประเด็นต่างๆก็จะต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมือสืบสวนสอบสวนของกองปราบฯ คลี่คลายคดี ผู้ตายยังติดใจว่าใครทำให้ลูกชายของเขาตายกันแน่ รอดพ้นจากกฎหมาย
ญาติๆ ของนายมาร์ค เชื่อว่ามาร์ค น่าจะถูกบังคับให้เสพยาเกินขนาดจนช็อกเสียชีวิต ก่อนพบร่างจมอยู่ในแม่น้ำ ผ่านไป 3 เดือนคดียังไม่มีความคืบหน้า ผลชันสูตรพลิกศพที่ตำรวจท้องที่อ่านให้ญาติๆ ฟังทราบว่ามาร์คเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว และพบสารเสพติดในร่างกายจำนวนมาก ผ่าปอดแล้วไม่พบน้ำในปอด ทาง สภ.ศรีสวัสดิ์ แจ้งว่าตัวเอกสารชันสูตรยังส่งมาให้ไม่ได้ วันนี้ญาติๆ จึงมาร้องขอทางกองปราบทำหนังสือร้องไปขอให้ สภ.ศรีสวัสดิ์ ส่งเอกสารมาให้
มาร์ค ไม่เคยมีประวัติใช้ยาเสพติดมาก่อนเลย เคยทำงานเป็นพวกดีเจ.เปิดแผ่น แต่ไม่คิดว่าจะเป็นงานเอ็นฯ แบบนี้ เขาว่ายน้ำเป็นๆ นักกีฬามาก่อน ไม่เชื่อว่าจะใส่กางเกงในตัวเดียวเดินไปมาหรือนอนแบบที่พบเจอเป็นศพ
กลับระบุว่าเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลวจากการเสพสารเสพติด ทำให้ครอบครัวเกิดความสงสัยในหลายประเด็น
นางตุ๊กตา (นามสมมติ) พี่สาวลูกพี่ลูกน้องของนายมาร์คเล่าอีกว่า นายมาร์คได้รับงานเอ็นเตอร์เทนจากอินฟลูเอนเซอร์ชายสองคนชื่อ “มิว” และ “ริน” โดยตกลงไปทำงานที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ 2568 โดยผู้จ้างเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ครอบครัวเข้าใจว่านายมาร์คไปทำงานเปิดแผ่นเป็นดีเจตามปกติ
เหตุการณ์เริ่มขึ้นในช่วงกลางดึกของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ โดยในเวลาประมาณตีสอง “มิว” เห็นนายมาร์คยืนอยู่หน้าแพ กระทั่งเวลาตีห้าครึ่ง “ริน” เข้าไปในห้องพักไม่พบตัวนายมาร์ค จึงออกตามหาแต่ไม่พบ จนกระทั่งเวลา 06.18 น. “ริน” ได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าของแพว่าไม่พบตัวนายมาร์ค ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ให้ช่วยตรวจสอบ กระทั่งเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่พบศพของนายมาร์คลอยอยู่ในน้ำลึก 18 เมตร
สิ่งที่ทำให้ญาติเกิดความผิดสังเกตคือ สภาพศพของนายมาร์คที่สวมเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว ขาและแขนมีลักษณะเกร็ง มือกำแน่น มีเลือดไหลออกจากหู จมูก และปาก ที่ข้อพับแขนขวามีรอยเข็มฉีดยา แต่เมื่อถึงวันฌาปนกิจศพ แขนขวาของนายมาร์คกลับมีสีดำคล้ำผิดปกติ ขณะที่แขนซ้ายมีสีปกติ นอกจากนี้ ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าไปค้นหาร่างยังแจ้งว่า พบเข็มฉีดยาและสำลีใหม่ๆ ลอยอยู่ในน้ำจำนวนมาก และยังพบเชือกเส้นหนึ่งอยู่ที่ด้านหลังแพ เหมือนมีร่องรอยบางอย่างที่ทำให้ตะไคร่น้ำบริเวณนั้นหายไป ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นร่องรอยจากการที่นายมาร์คพลัดตกแพเอง หรือเกิดจากสาเหตุอื่น
ในใบมรณบัตรระบุสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นว่า สันนิษฐานว่าขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ ทางครอบครัวได้เข้าแจ้งความต่อ สภ.ศรีสวัสดิ์ ภ.จว. กาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่จนถึงวานนี้ (13 พฤษภาคม) ผลชันสูตรพลิกศพอย่างเป็นทางการกลับออกมาว่า ผู้เสียชีวิตหัวใจล้มเหลวจากการเสพสารเสพติด ไม่ได้จมน้ำตาย ทำให้ญาติเกิดคำถามว่า หากเสียชีวิตบนบก เหตุใดศพจึงไปอยู่ในน้ำ และทิศทางของผลชันสูตรกลับเป็นไปในทิศทางเดียวกับคำให้การของพยาน
นางตุ๊กตา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “นิว” ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้แจ้งกับญาติว่า นายมาร์คถูกบังคับให้เสพยาไอซ์ โดยถูกบังคับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย ซึ่ง “นิว” รู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้มาเล่าให้ญาติฟัง ส่วน “ริน” ไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับทางครอบครัวโดยตรง แต่ได้มาร่วมงานศพและมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 60,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นเงินช่วยเหลือ ไม่ใช่เงินเพื่อปิดปากไม่ให้เอาเรื่องใดๆ
มีข้อมูลว่าพยานระบุว่า “มิว” ให้การว่า ตนเองก็ได้รับการว่าจ้างจาก “ริน” ให้ไปเที่ยวด้วยกัน และในทริปดังกล่าวมีการเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริง โดย “ริน” เป็นคนบังคับให้นายมาร์คฉีดยาเข้าแขนเพื่อที่จะมีเพศสัมพันธ์กัน แต่นายมาร์คไม่มีอารมณ์ และในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ก็มีการฉีดยาเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่งโดส หลังเกิดเหตุ “มิว” และ “ริน” ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตรวจปัสสาวะ พบว่าปัสสาวะของ “มิว” เป็นสีม่วงเพียงคนเดียว ส่วน “ริน” ผลตรวจไม่พบสารเสพติด โดย “มิว” อ้างว่า “ริน” ใช้เงินว่าจ้างให้คนอื่นสลับปัสสาวะ



