ทหารบกหญิงร้อง “จ่าคิงส์ แตงทิม” ช่วย หลังคู่กรณีเบี้ยวค่าเสียหายอุบัติเหตุ

ทหารบกหญิงร้อง “จ่าคิงส์ แตงทิม” ช่วย หลังคู่กรณีเบี้ยวค่าเสียหายอุบัติเหตุ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 พ.ค.68 ที่บริเวณด้านหน้าแดนเนรมิตเก่า ริมฟุตบาทถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พา น.ส.สุธีกานต์ หมายอาญา อายุ 31 ปี พนง.ราชการ สรรพวุธทหาบก ช่างสรรพาวุธ และ สุกุลจิรา สำราญเนตรสุข อายุ 30 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมตำรวจกองปราบฯ กรณี ประสบอุบัติเหตุรถชนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่คู่กรณีกลับเพิกเฉยต่อการชดใช้ค่าเสียหายตามที่ตกลงกันไว้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.67 เวลา 03.20 น. บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. วิภาวดี 11 ถนนวิภาวดี แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. เมื่อรถยนต์เก๋ง Mazda CX 30 สีดำ ทะเบียน 3ขย 1242 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมี น.ส. พรกมล (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี เป็นผู้ขับขี่ ได้ขับออกจากทางหลักเพื่อเข้าคู่ขนานและตัดเข้าปั๊ม เป็นเหตุให้ชนกับรถจักรยานยนต์ Honda Zoomer X combike สีเทาดำ ทะเบียน 4กบ 2388 กรุงเทพมหานคร ที่ น.ส. สุธีกานต์ เป็นผู้ขับขี่ และมี น.ส. กุลจิรา ซ้อนท้ายมาในเลนซ้ายสุดของทางคู่ขนาน จากอุบัติเหตุดังกล่าว ส่งผลให้ น.ส. สุธีกานต์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกซี่โครงหักหลายซี่ นิ้วมือขวาหักสองนิ้ว นิ้วเท้าขวาหัก กระดูกน่องขวาหัก และมีแผลถลอกตามตัว ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลและที่บ้านรวมกว่า 2 เดือน ส่วน น.ส. กุลจิรา ได้รับบาดเจ็บที่เข่าขวาฉีกขาด เย็บถึง 51 เข็ม และมีแผลถลอกตามร่างกาย ต้องรักษาตัวและทำกายภาพบำบัดเป็นเวลา 1 เดือน น.ส. สุธีกานต์ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ คู่กรณีรับปากว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลกลับไม่มีการติดต่อหรือช่วยเหลือใดๆ ได้แต่ให้ผู้บาดเจ็บทั้งสองรักษาตามสิทธิ์ของตนเอง ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ม.ค.68 ได้มีการไกล่เกลี่ยที่ สน. วิภาวดีฯ ทราบว่า พ.ร.บ. รถยนต์ของคู่กรณีขาด ทำให้บริษัทประกันไม่สามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ คู่กรณีจึงต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดด้วยตนเอง “ตอนนั้นคู่กรณีบอกว่าที่บ้านล้มละลาย ไม่มีงานทำ พวกตนสงสารจึงเรียกค่าเสียหายไปคนละ 60,000 บาท แต่คู่กรณีกลับพาทนายมาต่อรองเหลือคนละ 40,000 บาท แถมยังขอผ่อนจ่ายเดือนละ 6,000 บาท พวกตนไม่อยากขึ้นโรงขึ้นศาลให้เสียเวลา เพราะตอนนั้นไม่มีรายได้ จึงยอมตกลง” น.ส. สุธีกานต์ กล่าว อย่างไรก็ตาม หลังจากคู่กรณีจ่ายเงินงวดแรกคนละ 6,000 บาท เมื่อวันที่ 1 กพ.68 ก็ไม่มีการชดเชยใดๆ อีกเลย แม้จะติดต่อทวงถามไปเมื่อวันที่ 2 มี.ค.68 กลับได้รับคำตอบว่า “ไม่มี หาให้อยู่แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหาให้ได้หรือเปล่า” แถมยังถูกคู่กรณีพูดจาเยาะเย้ยว่า “ก็เห็นกลับไปร้องเพลงได้แล้วนี่” น.ส. กุลจิรา กล่าวเสริมว่า จนถึงขณะนี้ผ่านมา 4 เดือนแล้ว พวกตนได้รับเงินชดเชยเพียงคนละ 6,000 บาทเท่านั้น ทั้งที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บและผลกระทบจากการเกิดอุบัติเหตุอยู่ จึงตัดสินใจมาร้องขอความช่วยเหลือจาก จ่าคิงส์ แตงทิม ให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงและติดตามให้คู่กรณีกลับมารับผิดชอบในสิ่งที่ได้กระทำไว้ ทั้งนี้ จ่าคิงส์ แตงทิม ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว พร้อมรับปากว่าจะดำเนินการช่วยเหลือและติดตามความคืบหน้าของคดีอย่างใกล้ชิด ก่อนจะพาผู้เสียหายมาร้องขอความเป็นธรรมตำรวจกองปราบฯ ในวันนี้