“จตุรงค์”นักวิชาการพุทธศาสนา ชี้แจงกรณี“พระศานิตย์”ที่มาเยี่ยม’ทิดแย้ม’อ้างว่ายังไม่ขาดจากการเป็นพระ!! 13.30 น. วันที่ 16 พ.ค.68 นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านพุทธศาสนา กล่าวถึงกรณที่พระปลัดศานิตย์ พงษ์จตุรา เข้าเยี่ยมทิดแย้ม อดีต เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เป็นเวลาประมาณ 5 นาที แล้วออกมาให้สัมภาษณ์สื่อฯ ว่า“ที่ไปเรียกท่านว่าอดีตเจ้าอาวาสนั้น อาตมาได้เรียนถามท่านๆ ว่าการลาสิกขาของท่านนั้นยังไม่สมบูรณ์ เมตตาสื่อมวลชนให้ความเป็นธรรมกับท่านด้วย” นายจตุรงค์ กล่าวว่า“ กรณีนี้ต้องถามว่าในห้องที่ทำการสอบปากคำเมื่อคืนนี้ ต้นเห็นจากในภาพข่าว ว่ามีพระภิกษุอยู่ร่วมด้วย 1-2 รูป และมีตำรวจอยู่ด้วยจำนวนหนึ่งนั้น ต้องถามว่าท่านเหล่านั้นได้ฟังว่าท่านแย้มได้กล่าวคำลาสิกขาครบหรือไม่ คำลาสิกขาบทจะต้องตั้งนะโม 3 จบ แบ้วตามด้วย “สิกขัง ปัจจักขามิ คิหิติ มัง ธาเรถะ” (3 หน) แปลว่าท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอประกาศว่า “บัดนี้ข้าพเจ้าเป็นคฤหัสถ์ กล่าวแบบนี้ 3 ครั้งก็ได้ ถ้าหากกล่าววาจาแล้วมีตกบาลีไป2-3 ตัว หรือพูดงึมงัมๆ อยู่คนเดียวโดยไม่มีใครได้ยิน การสึกนั้นก็เป็นโมฆะได้ จึงต้องถามว่าพระที่อยู่ในห้องรวมไปถึงตำรวจนั้นได้ยินการตั้งนะโม 3 จบมั้ย ได้ยิน“สิกขัง ปัจจักขามิ คิหิติ มัง ธาเรถะ ข้าพเจ้าขอประกาศกับท่านทั้งหลายเหล่านี้ ว่าข้าพเจ้าเป็นคฤหัสถ์ (3 หน) ถ้าได้ประกาศขัดเจน มีคนได้ยิน แต่ถ้าแค่พูดงึมงัมๆ กับพระพุทธรูปก็ถือว่ายังไม่สำเร็จได้ ตนใช้ดุลยพินิจ ไม่ได้ใช้ธรรมวินัย เพราะศาลฎีกาเคยชี้ไว้เป็นแนวทางว่า การที่ไปพูดงัมงัมๆ กับพระพุทธรูปนั้นไม่ถือว่าเป็นการสึก เขาสามารถจะอ้างเภทภัยต่างๆ ได้ว่าจำเป็นจะต้องรักษาชีวิตไว้ ดังนั่นจึงกล่าวไม่ครบ ก็อาศัยวิธีนี้เป็นช่องว่างในการทำให้สึกไม่สำเร็จ ถ้าจะมามุขนี้ก็ต้องพิจารณากันดู
