ตร.ปอศ. เผย “เวย์ ไทเทเนียม” ชวนเทรดหุ้น 50 ล้านบาท พัวพันคดี “นานา” ยังไม่เข้าสำนวน! เตรียมส่ง ปปง. สอบเส้นเงินกว่า 195 ล้าน

ตร.ปอศ. เผย "เวย์ ไทเทเนียม" ชวนเทรดหุ้น 50 ล้านบาท พัวพันคดี "นานา" ยังไม่เข้าสำนวน! เตรียมส่ง ปปง. สอบเส้นเงินกว่า 195 ล้าน


​ปอศ. เร่งสอบเส้นทางการเงินคดี "นานา ไรบีนา" หลอกลงทุน 195 ล้านบาท ขณะที่ผู้เสียหายบางรายพาดพิง "เวย์ ไทเทเนียม" สามี ชวนเทรดหุ้น 50 ล้านบาท ด้าน รอง ผบก.ปอศ. ย้ำ! ข้อมูล 50 ล้านบาท ยังไม่ปรากฏในสำนวนคดี ชี้ ผู้ต้องหาปฏิเสธได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พร้อมส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เนื่องจากเป็นคดีมูลฐาน

วันนี้ ​(8 ธ.ค.) พ.ต.อ.นิตติโชติ เพ็ญจำรัส รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (รอง ผบก.ปอศ.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดี นางไรบีนา อินทชัย หรือ นานา ศิลปินดาราชื่อดัง ผู้ต้องหาในคดีหลอกชักชวนเพื่อนและคนในวงการลงทุนธุรกิจทิพย์ จนมีผู้เสียหายรวมกว่า 17 ราย และมูลค่าความเสียหายรวม 195 ล้านบาท

​พ.ต.อ.นิตติโชติ เปิดเผยว่า วันนี้มีการประชุมคณะทำงานเพื่อรวบรวมข้อมูล ทั้งเส้นทางการเงิน ผู้เสียหาย และพยานที่เกี่ยวข้อง โดยพบว่ามีผู้เสียหายบางรายกล่าวพาดพิงถึง นายปริญญา อินทชัย หรือ เวย์ ไทเทเนียม สามีของ นานา ไรบีนา เกี่ยวกับการลงทุน ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายปริญญา เกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด

​ส่วนกรณีที่มีข่าวปรากฏในสื่อก่อนหน้านี้ว่า มีการชักชวนเพื่อนลงทุนเทรดหุ้นเป็นเงิน 50 ล้านบาท นั้น รอง ผบก.ปอศ. ระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวทราบจากสื่อ แต่ในสำนวนการสอบสวน ณ ปัจจุบัน ยังไม่ปรากฏหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) จะมีผู้เสียหายบางส่วนเข้ามาให้การเพิ่มเติม และจะมีการสอบถามในประเด็นนี้ด้วย

​พ.ต.อ.นิตติโชติ กล่าวต่อว่า วันนี้ เวย์ ได้มีการประสานเข้ามา แต่ยังไม่ยืนยันชัดเจนว่าจะมาเมื่อใด และมาช่วงไหน แต่มีการประสานเข้ามาจริง

​เมื่อถูกถามถึงลักษณะพฤติการณ์ที่ผู้เสียหายพาดพิงถึงนายปริญญา ว่าเป็นเช่นเดียวกับนางไรบีนาหรือไม่ ได้รับการยืนยันว่า มีลักษณะเช่นนั้น แต่ต้องรอการสอบสวนพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้ชัดเจนถึงความเกี่ยวข้อง

​สำหรับเส้นทางการเงินที่ปรากฏขณะนี้ พบว่าเกี่ยวข้องกับการลงทุนในหลักล้านบาท แต่ขอสงวนรายละเอียดไว้ในสำนวนการสอบสวน เนื่องจากยังได้ข้อมูลจากธนาคารไม่ครบถ้วน จึงได้ให้ฝ่ายสืบสวนเร่งรัดข้อมูลทางการเงินเพื่อหาความชัดเจนว่าเชื่อมโยงกับเรื่องใด และจำนวนเท่าใด
​เนื่องจากคดีนี้เป็น "คดีมูลฐาน" พนักงานสอบสวนจึงได้ รายงานไปยัง ปปง. (สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) เรียบร้อยแล้ว เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าโยงไปถึงใครอีกบ้าง

​ในประเด็นที่ทนายของนางไรบีนาต่อสู้ว่า พฤติการณ์ไม่ใช่การฉ้อโกง แต่เป็นการกู้ยืมนั้น พ.ต.อ.นิตติโชติ ย้ำว่า ฝ่ายผู้ต้องหาสามารถให้การและปฏิเสธได้ทุกอย่าง แต่ทุกอย่าง ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่นำมาพิสูจน์ ซึ่งในส่วนของผู้กล่าวหาได้นำหลักฐานมาจนนำไปสู่การขอหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว

​ปัจจุบัน นางไรบีนา ยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอรวบรวมพยานหลักฐานมาต่อสู้คดีต่อไป ขณะที่ผู้เสียหายยังคงยืนยันที่ 17 ราย และมูลค่าความเสียหายที่ 195 ล้านบาท โดยกรณีที่ตัวเลขของตำรวจและทนายไม่ตรงกัน ก็ต้องให้ฝ่ายผู้ต้องหานำหลักฐานเข้ามาชี้แจง

ส่วน ​เจนสุดา และ พอลล่า ผู้เสียหาย ได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนและยืนยันตัวเลขความเสียหายตามที่เคยเป็นข่าวแล้ว และทั้งคู่ยังยืนยันแจ้งความดำเนินคดีอยู่



You May Also Like